หลักการใช้ Definite & Indefinite Articles
Articles คือ…?
Articles เป็นคำคุณศัพท์อย่างหนึ่ง Articles แปลว่า “คำนำหน้านาม” หมายความว่า คำนำหน้าทุกตัวในภาษาอังกฤษเวลาพูดหรือเขียนต้องใช้ Articles นำหน้าทั้งนั้น (ยกเว้นนามบางตัว หรือบางกรณีไม่ต้องใช้ Articles นำหน้า) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
Articles แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ
1.Indefinite Article ได้แก่ a และ an ใช้นำหน้านามนับได้
( Countable Nouns ) เอกพจน์ทั่วๆไป ( Singular )
2.Definite Article ได้แก่ the ซึ่งใช้นำหน้าคำนามนับได้
( Countable Nouns ) และนามนับไม่ได้ ( Uncountable Nouns ) ทั้งรูปเอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ ( Plural ) เพื่อให้นามนั้นมีความหมายเฉพาะเจาะจง
Indefinite Article
ได้แก่ a, an มีหลักการใช้ดังนี้
- ใช้an นำหน้าคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ a, e, i, o,u หรือออกเสียงสระไม่ว่าจะเขียนขึ้นต้นด้วยพยัญชนะก็ตามเช่น
-an elephant, an hour, an umbrella, an apple
- ใช้a, an นำหน้าคำนามเอกพจน์ที่นับได้เสมอที่มีความหมายเป็น”หนึ่ง”
-She has a dog.
- ใช้a, an นำหน้าคำที่บอกอาชีพ
-I am a student .
- ใช้a, an นำหน้านามเอกพจน์ที่แปลเป็นต่อ…(หน่วย)
-Oranges cost 50 baht a kilogram.
- ใช้a กับการเจ็บไข้ได้ป่วยเช่น
-I have eaten papaya salad at lunch and now I have a stomachache.
- ใช้a, an ในประโยคอุทานตามหลัง what เช่น
-What is this ? It’s a pear.
เราจะไม่ใช้ a, an กับสิ่งต่อไปนี้
1.กับคำนามที่นับไม่ได้ (uncountable nouns)
2.ไม่ใช้นำหน้าชื่อวิชา ชื่อกีฬา ชื่อประเทศ ชื่อเมือง ชื่อมหาวิทยาลัย
3.ไม่ใช้หน้าคำที่เป็นมื้ออาหาร breakfast, lunch, dinner
*หมายเหตุ
- คำนามนับได้ เอกพจน์ นั้นขึ้นต้นด้วยสระ แต่ว่าออกเสียงเป็นพยัญชนะ ให้ใช้ a เช่น a uniform, a university, a European, a eucalyptus ( ต้นยูคาลิบตัส ), a utensil, a union, a useful, a unit
- ถ้าคำนามนับได้ เอกพจน์ นั้นมีคุณศัพท์นำหน้าขยาย ให้ดูดังนี้
-หากคำคุณศัพท์นั้นขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะก็ให้ใช้ a เช่น a sweet orange, a big umbrella
-หากขึ้นต้นด้วย เสียงสระให้ใช้ an เช่น an old city, an ugly woman เป็นต้น - ถ้าคำนามนั้นขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ แต่ออกเสียงเป็นสระ หรือมีadjective ที่ขึ้นต้นด้วยสระมาขยายข้างหน้านามนั้นให้ใช้ an เช่น
-ออกเสียงเป็นสระ เช่น an hour, an heir, an honor
-มีคุณศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วยสระ เช่น an important person
Definite Article
ได้แก่ The มีหลักการใช้ดังนี้
1. ใช้กับคำนามนับได้เอกพจน์และพหูพจน์ที่เป็นการชี้เฉพาะเจาะจงลงไปว่าคนไหน
อันไหน สิ่งไหน
2. ใช้ the นำหน้าคำนามที่มีสิ่งเดียว
-the sun, the moon, the sky
3. ใช้ the นำหน้าชื่อ-สกุล (และเป็นพหูพจน์เสมอ) หมายถึง ครอบครัว เช่น
-The Browns, The Lees
4. ตามปกติเราใช้the นำหน้าชื่อหนังสือพิมพ์เช่น
-The Nation, The Times, The Sun
5. ใช้ the กับชื่อ สถานที่หรือคำนามที่เป็นชื่อเฉพาะ
-ทะเล the Pacific
-พิพิธภัณฑ์ the National Museum
6. ใช้the นำหน้าชื่อเครื่องดนตรีต่างๆ
-Jirayut can play the guitar very well.
7. ใช้the ก่อนคำว่า same
-Your shirt is the same color as mine.
8. ใช้the + คำคุณศัพท์เมื่อกล่าวถึงกลุ่มบุคคลเป็นพิเศษ
-the rich, the sick, the poor
9. ใช้the กับคำนามที่ชี้เฉพาะซึ่งผู้พูดกับผู้ฟังเข้าใจว่าหมายถึง สิ่งของอันใด เช่น
-Shut the door! (ผู้ฟังเข้าใจว่าปิดประตูบานไหน)
-I had trouble with the car this morning.
10. ใช้the กับคำนามที่กล่าวซ้ำ (repeated nouns)
-Our country has a king. The king is very kind.
11.ใช้ the นำหน้าคำนามที่แสดงลำดับที่ (Ordinal Number)
-the first, the second, the fifth, the last
12.ใช้ the นำหน้าคำ adjective ที่แสดงการเปรียบเทียบขั้นสูงสุด (Superlative degree)
-Ratcha is the most beautiful woman in this group.
13. ใช้the กับคำ adjective บางตัว ซึ่งใช้แทนคำนาม หมายถึง“พวก….” และถือว่าเป็นพหูพจน์เสมอ
-The rich are sometimes selfish.
14. ใช้ the กับอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์และสัตว์
-the head the neck the mouth
15. ใช้ the กับคำนามที่มีประโยคหรือวลีขยายความ
-The man who is standing over there is my teacher.
16. ใช้นำหน้าคำadjective หรือ adverb ในขั้นComparative Degree เพื่อทำให้มีความหมาย“ยิ่ง…ยิ่ง…”
– The more I see her the more I love her.
-The sooner the better. ยิ่งเร็วยิ่งดี
17. ใช้ the นำหน้าคำนามเอกพจน์ที่เป็นสัตว์ สิ่งของ จะหมายถึงกลุ่มหรือพวกของสิ่งนั้น
-The dog is a faithful animal.
-The tiger is a fierce animal.
เราจะไม่ใช้ the กับสิ่งต่อไปนี้
1. ไม่ใช้ the นำหน้านาม+จำนวนเช่น
room 255
2. ไม่ใช้ the เมื่อเราพูดถึงสิ่งของหรือบุคคลโดยทั่วไป
I’m afraid of spiders.