Past participle คือคำกริยาที่เติม ed ข้างท้าย เช่น walked, played เป็นต้น คำจำพวก Past participle นี้ ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์เช่นกัน แต่มักจะมีความหมายกลับทาง คือเมื่อประกอบคำนามเข้าแล้วจะทำให้คำนามนั้นมีความหมายว่าเป็น “ผู้ถูกกระทำ” ตามปกติก็จะต้องเป็นกริยาที่ต้องการกรรม คือ สกรรมกริยาเท่านั้นเช่น
mixed Drink เครื่องดื่มที่มีเหล้าหลายอย่างผสมแล้ว
extinguished candle เทียนที่ถูกเป่าให้ดับแล้ว
married man คนที่แต่งงานแล้ว
การเติม ed นั้นมีหลักอยู่ว่า
1 ถ้ากริยาลงท้ายด้วย e ให้เติม d ตัวเดียวเช่น change (เปลี่ยน) เป็น changed
2 ถ้าลงท้ายด้วย y และ หน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วจึงเติม ed เช่น marry (แต่งงาน) เป็น married
3 คำที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะตัวเดียว มีสระข้างหน้าตัวเดียว ให้เติมพยัญชนะหลังนั้นซ้ำลงไปเสียก่อนที่จะเติม ed เช่น beg (ขอร้อง) เป็น begged
แต่มีกริยาไม่ต่ำกว่า 200 ตัวที่เรียกว่า “กริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎ” Irregular verbs กริยาพวกนี้เวลาเป็น Past participle จะใช้เติม ed ตามกฎปกติไม่ได้ แต่ต้องแปลงรูปไปเป็นอย่างอื่น และนี่คือตัวอย่างสำหรับกริยาที่ให้ไว้ สำหรับ Past participle ที่ไม่เป็นไปตามกฎดังนี้
Verb |
Past participle |
run |
run |
sleep |
slept |
swim |
swum |
sit |
sat |
see |
seen |
steal |
stolen |
dig |
dug |
set |
set |
teach |
taught |
fly |
flown |
eat |
eaten |
write |
writen |
forget |
forgotten |
go |
gone |
know |
known |
find |
found |
ring |
rung |
pay |
paid |
buy |
bought |
ตัวอย่างจำพวก Past participle ที่ไม่เป็นไปตามกฎเช่น
a known man คนที่เป็นที่รู้จักกันมาก
a written word คำที่ใช้เขียนไม่ใช่สำหรับพูดออกมา
a stolen book หนังสือที่ถูกขโมยไป
นอกจากนี้เรายังอาจจะเอาคำอื่น เช่น คำนาม คำคุณศัพท์ หรือกริยาวิเศษณ์มาเติมไว้ข้างหน้าได้ด้วย เช่น
well-done word คำพูดที่พูดได้ดี
moth-eaten cloth ผ้าที่มีแมลงกิน
grown-up boy เด็กที่โตมากแล้ว
well-paid job งานที่ได้เงินเดือนสูง
a well-written book หนังสือที่เขียนได้ดี สนุก