ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

กริยาช่วยในกาลอดีต และ กริยาช่วยพิเศษ

Written by Sine

กริยาช่วย ในกาลอดีต

อย่างที่เราบอกกันไปว่าในการสร้างประโยคของแต่ละ Tense นั้น อาจจะต้องมีการใช้กริยาช่วย เช่นเดียวกับการทำเป็นอดีตกาลและการเป็นอนาคตกาล ของเหล่าบรรดา กริยาช่วยต่างๆ เรามาดูกันว่ากริยาช่วยที่เราพูดถึงในวันนี้จะสามารถแปลงเป็นอดีตกาลหรืออนาคตการได้อย่างไรบ้าง 

ในการทำเป็นอดีตกาล เราจะต้องแปลงกริยาช่วยเหล่านี้เสียก่อน ดังนี้ 

can

เป็น 

could

may

เป็น

might

shall

เป็น

should

will

เป็น

would

have to/ has to

เป็น

had to

ส่วน could กับ must ไม่ต้องแปลงรูป 

He could run.
เขาวิ่งได้

We must go.
เราต้องไป 

ประโยคที่มีกริยาพวกนี้อยู่จะต้องใช้ควบคู่ไปกับประโยคในอดีตกาลจึงจะถูกต้อง สำหรับการแปลงเป็นกาลอื่นก็ไม่ยากคือ 

  1. แปลงเป็นพวก Continuous ก็ใช้ be ตามหลัง แล้วเติม Present Paticiple เช่น

He might be running.
ฉันอาจจะกำลังวิ่งอยู่

He could be working.
เขาสามารถที่จะกำลังทำงานอยู่

  1. ทำเป็น  Perfect Tense  ก็ใช้ have ตามหลังกริยาช่วย ก่อนจะเติม Past participle เช่น

 He might  have finished his  work.
เขาอาจจะทำงานของเขาเสร็จสิ้นแล้วก็ได้ 

  1. ทำเป็น Perfect Continuous ก็ใช้ have been ตามหลังก่อนเติม Present participle เช่น

He might have been running.
เขาอาจจะกำลังวิ่งอยู่ก็ได้ 

อนาคตในอดีต ในการใช้กริยาช่วย shall กับ will เราเห็นแล้วว่าเป็นการแสดงอนาคตกาลแต่ในการใช้ should กับ would นี้ก็แสดงอนาคตกาลเหมือนกันแต่เป็นอนาคตกาลในอดีตเช่น 

He said yesterday that he would come here today.
เขากล่าวเมื่อวานนี้ว่าจะมาที่นี่ในวันนี้ 

(เขากล่าวเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นอดีตและการกล่าวว่าจะมาที่นี่ในวันนี้ก็เป็นอดีตแต่ยังไม่อดีตเท่ากับการพูดนั้นดังนั้นจึงต้องใช้อนาคตในอดีต)

การใช้กริยาในอนาคตกาล ยกเว้น shall กับ will แล้วกริยาช่วยอื่นๆตามปกติไม่ใช้ในอนาคตกาลเช่น 

You can go. เขาไปได้ (ปัจจุบัน)
He could go. เขาไปได้ (อดีต) 

แต่ในอนาคตกาลไม่มีใช้ เว้นแต่จะแปลงวิธีใช้ คือ ใช้ be able to ตามหลัง shall, should หรือ will, would เช่น 

He will be able to go.
เขาอาจจะไปได้ (อนาคต)

คำว่า must ในอนาคตก็ไม่มีใช้ แต่พออาจจะแปลงรูปได้บ้างเป็น be forced to หรือ be compelled to หรือ be obliged to ใช้ตามหลังกริยาช่วย shall, will หรือ  should, would แต่ความหมายจะแรง คือจะแปลว่า “ถูกบังคับ” เช่น

He will be forced to come.
เขาจะถูกบังคับให้มา 

We shall be compelled to run.
เราจะถูกบังคับให้วิ่ง 

We shall be obliged to go.
เราจำเป็นจะต้องไป 

กริยาช่วยตัวอื่นๆ ไม่มีใช้ในอนาคตกาล หรือในอนาคตในอดีตกาล 

กริยาช่วยพิเศษ คือพวกกริยา verb to be ใน Present participle หรือใน Continuous Tense  เราจะเห็นว่า verb to be เอมมิได้มีความหมายอะไรในตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นเพียงกริยาช่วยเหมือนกับกริยาช่วยตัวอื่น ๆ ในทำนองเดียวกันกับ Verb to have ใน Past participle หรือใน Perfect Tense ก็ไม่มีความหมายในตัว และเป็นกริยาช่วยเหมือนกัน 

About the author

Sine