Tense คืออะไร?
12 Tenses เข้าใจง่ายจำง่ายๆไม่ต้องท่อง เราเคยรู้มาว่า tense คือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าอย่างนั้นมันน่าจะมีแค่เหตุการณ์ในอดึต ปัจจุบัน และอนาคตก็เท่านั้นสิ จริงๆก็ใช่นะคะ หากแต่ในความเป็นจริงมันยังมีเงื่อนไขอื่นๆของเหตุการณ์ประกอบอีกจึงทำให้เกิดเป็น 12 tenses ในภาษาอังกฤษ เท่านั้นยังไม่พอยังมีรูปแบบบางอย่างที่ไม่ได้เข้าพวกอยู่ใน 12 tenses นี้อีกด้วย แล้วตกลง tense คืออะไรกันแน่ tense 12 tenses จำง่ายเข้าใจง่ายจริงหรือ?
Tense คือการเปลี่ยนรูปกริยาตามกาลเวลา ในประโยคของภาษาอังกฤษที่ใช้บ่งบอกถึงเหตุการณ์ว่าเกิดอยู่ในช่วงเวลาใดๆ ในอดีต (past) ,ปัจจุบัน (present) ,หรืออนาคต (future) อีกทั้งรูปแบบโครงสร้างประโยคยังบ่งบอกถึงลักษณะและพฤติกรรมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นควบคู่กันไปอีกด้วย กล่าวคือนอกจากบ่งบอกช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์แล้วยังบอกด้วยว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดแบบเรียบง่าย (simple), ต่อเนื่อง (continuous หรือ progressive), สมบูรณ์ (perfect) หรือสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง (perfect continuous หรือ perfect progressive) นั่นเอง
ถึงตอนนี้หลายคนคงเริ่มจะมึนๆงงๆกันแล้วใช่มั๊ยคะ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะเอาเข้าจริงๆเรื่อง tense 12 tenses จำง่ายและมันก็เข้าใจง่าย ไม่ยากเกินกว่าความสามารถของเราหรอกนะคะ ตามมาดูกันต่อได้เลยค่ะ ค่อยๆอ่านให้จบนะคะแล้วจะต้องบอกว่ามันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ก่อนอื่นขอให้เราละลายความคิดเดิมที่ว่า tense เป็นแค่เรื่องของกาลเวลาออกจากสมองก่อน แล้วกลับมาพิจารณาว่า tense เป็นเรื่องของกาลเวลาและยังมีลักษณะพฤติกรรมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเกี่ยวข้องด้วยควบคู่กันไปอีกด้วย เช่นนี้ก็จะทำให้เราเข้าใจและจดจำ tense 12 tenses ได้ง่ายๆ และสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น ถึงตอนนี้หลายคนอาจจะบอกว่าแล้วยังไง…มันเข้าใจง่ายตรงไหน… ใจเย็นๆค่ะขอให้เราลองมาดู tense 12 tenses ง่ายๆเป็นรูปแบบตารางกันหน่อยดีกว่า
หมายเหตุ: Progressive Tense คืออะไร? ในบางตำราก็ใช้คำว่า Progressive Tense แทน Continuous Tense ก็ขอให้เข้าใจว่ามันคือรูปแบบ tense เดียวกัน – Progressive Tense ก็คือ Continuous Tense นั่นเองนะคะ
ตอนนี้ลองดู tense จากตารางข้างบนแต่ยังไม่ต้องพยายามจำนะคะ แค่ลองมองดูแล้วแยกให้ออกว่าจริงๆแล้วแต่ละ tense มีเพียงสองส่วนของเหตุการณ์มาประกอบกันคือ ส่วนของเวลา และ ส่วนของลักษณะพฤติกรรมของเหตุการณ์
ส่วนของเวลาจะแบ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 ช่วงเวลาคือ อดึต (past), ปัจจุบัน (present) และอนาคต (future) และส่วนของลักษณะพฤติกรรมของเหตุการณ์แบ่งเป็น 4 ลักษณะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบง่ายๆ (simple), แบบต่อเนื่อง (continuous), แบบสมบูรณ์ (perfect) และสุดท้ายแบบสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง (perfect continuous) ซึ่งเมื่อนำ tense ทั้งสองส่วนมาประกอบกันมันก็ได้เป็นชื่อของ tense 12 tenses นั่นเอง จะเห็นได้ว่าเค้าจัดการ tense ทั้ง 12 tenses เอาไว้ได้อย่างเป็นระบบมีระเบียบดีมากเลยทีเดียว และก็เชื่อว่าการจดจำชื่อเรียกของ 12 tenses นั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับพวกเราอยู่แล้วใช่ไหมคะ หากแต่เราจะเลือกใช้ tense อะไรมาใช้กับเหตุการณ์แบบไหนถึงจะสื่อสารเรื่องราวให้เข้าใจได้ถูกต้องตรงกันนี่สิสำคัญ