หากเรามีความสงสัยว่าจะทำการแยกส่วนประกอบของประโยคในภาษาอังกฤษนั้นอย่างไร วันนี้เรามีคำแนะนำหนึ่งที่เราจะมอบให้คุณ
ซึ่งคำแนะนำที่หนึ่งคือ เราต้องทำการแยกให้ออกว่าในประโยคนั้น ๆ อะไรคือประธาน อะไรคือกริยา และอะไรคือกรรม เพราะหากเราไม่รู้ความหมายของคำศัพท์ในบทความมากนัก นี่คือทางที่ดีที่สุด ที่เราจะสามารถหาใจความของบทความให้เจอ หากในแต่ละประโยคของบทความมีความยาว แน่นอนว่าอาจจะทำให้ไม่เข้าใจในการแปลคำต่อคำ จะทำให้เราแปลไม่ได้ความ อ่านแล้วงง เช่น
A fat man carries a new red luggage.
เจอประโยคแล้วสิ่งที่เราต้องกวาดสายตาดูอันดับแรก คือดูว่า ประธาน กริยา กรรม คือ
ประธาน | Man | ผู้ชาย |
กริยา | carry(s) | ถือ |
กรรม | luggage | กระเป๋าเดินทาง |
เมื่อเราทำการแยกแล้วก็จะจับใจความได้ว่า “ผู้ชายถือกระเป๋าเดินทาง” แล้วก็แปลคำศัพท์ที่ขยายของแต่ละคำต่อไปได้เป็น “ผู้ชายอ้วนคนหนึ่งถือกระเป๋าเดินทางใบใหม่สีแดงใบหนึ่ง” ไม่ใช่แปลคำต่อคำ “คนหนึ่งอ้วนผู้ชายถือใบหนึ่งใหม่สีแดงกระเป๋าเดินทาง” การแปลคำต่อคำไม่ทำให้จับใจความสำคัญได้ นี่แหละที่เคยบอกไว้ว่าการแปลไม่ได้อาศัยแค่คำศัพท์และไวยากรณ์ แต่ต้องอาศัยเรื่องของประสบการณ์เข้าช่วย นี่เป็นแค่ประโยคง่าย ๆ ที่นำมาเป็นตัวอย่าง ถ้าเข้าใจก็ใช่ว่าจะแปลได้
แต่ก็ใช่ว่าประโยคทุกประโยคจะต้องประกอบด้วยประธาน กริยา กรรม เสมอไป บางประโยคประกอบไปด้วย ประธาน และกริยาท่านั้น ดังนั้นในการแปลต้องอาศัยการสังเกต ให้ชัดเจน ว่าประโยค แต่ละประโยคในบทความจบที่ตรงไหน ประกอบไปด้วยคำประเภทไหนบ้าง